15 กันยายน 2550

สื่อการเรียนการสอน

หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน
........1.1 ความหมาย ประเภท ของสื่อการเรียนการสอน
หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้สอนและผู้เรียนนำมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้กระบวนการเรียนรู้ดำเนินไปสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
........1.2 คุณค่า และประโยชน์ของสื่อการเรียนการสอน
ประเภทของสื่อการสอน
แนวคิดเกี่ยวกับการจัดประเภทสื่อการสอนนั้นมีหลากหลาย ในที่นี้จะพิจารณาจัดกลุ่มการแบ่งประเภทของสื่อการสอนเป็น 2 มุมมอง ดังนี้
ก. การจัดประเภทตามระดับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้รับจากสื่อการสอน
ข. การจัดประเภทตามลักษณะของสื่อหรือวิธีการใช้งานสื่อการสอน
หลักการใช้สื่อการสอน
การที่ผู้สอนจะนำสื่อการสอนมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์นั้น มีหลักการที่ผู้สอนควรมีความเข้าใจในการใช้สื่อการสอน ซึ่งแบ่งหลักการออกเป็น 4 ขั้นตอนตามช่วงเวลาของการใช้สื่อการสอนดังนี้
1. การวางแผน (Planning)
2. การเตรียมการ (Preparation)
3. การนำเสนอสื่อ (Presentation)vvv
4. การติดตามผล (Follow - up)
จิตวิทยาการรับรู้ (Perception)
การรับรู้ เป็นเหตการณ์ความรู้สึกที่เป็นผลจากกิจกรรมของเซลล์ประสาทสมอง เป็นลักษณะหนึ่งของจิต ไม่ใช่จิตทั้งหมด จัดเป็นประเภทอสสาร สามารถ Observe หรือ Experienceได้ด้วยวิธีพินิจภายใน(Introspection)
........2.2
จิตวิทยาการเรียนรู้
........2.3 จิตวิทยาพัฒนาการหน่วยที่ 3 การสื่อสาร
........3.1 ความหมายและองค์ประกอบของการสื่อสาร
การสื่อสาร (Communication) หมายถึง กระบวนการส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
........3.2
รูปแบบของการสื่อสาร
รูปแบบของการสื่อสาร แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือ
1.การสื่อสารทางเดียว (One - Way Communication)
องค์ประกอบที่สำคัญในการเรียนการสอนคือสิ่งที่ครูมักนำไปประกอบการเรียนการสอนนั่นก็คือ สื่อการสอนนั่นเอง สื่อการสอนนับว่ามีประโยชน์มากเพราะสื่อการสอนเปรียบเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เข้าใจในเนื้อหาและได้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นมากกว่าที่ครูผู้สอนจะสอนโดยการมาบรรยายหรือสอนตามเนื้อหา โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยสอนเลย
ลักษณะการออกแบบที่ดี (Characteristics of Good Design)
1.ควรเป็นการออกแบบที่เหมาะสมกับความมุ่งหมายของการนำไปใช้
2. ควรเป็นการออกแบบที่มีลักษณะง่ายต่อการทำความเข้าใจ การนำไปใช้งานและกระบวนการผลิต
3. ควรมีสัดส่วนที่ดีและเหมาะสมตามสภาพการใช้งานของสื่อ
4. ควรมีความกลมกลืนของส่วนประกอบ ตลอดจนสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของการใช้และการผลิตสื่อชนิดนั้น
........4.3
การสร้างแบบจำลองการออกแบบสื่อการเรียนการสอน

วัสดุกราฟิกจะหมายถึงวัสดุใด ๆ ซึ่งแสดงความจริง แสดงความคิดอย่างชัดเจน โดยใช้ภาพวาด ภาพเขียน และอักษรข้อความรวมกัน ภาพวาดอาจจะเป็น แผนภาพ ( Diagram ) ภาพสเก็ต ( Sketch ) หรือแผนสถิติ ( Graph ) หรืออาจเป็นคำที่ใช้เป็นหัวเรื่อง ( Title ) คำอธิบายเพิ่มเติมของแผนภูมิ แผนภาพ แผนสถิติ และภาพโฆษณา อาจวาดเป็นการ์ตูนในรูปแบบหรือประเภทต่างๆ ภาพสเก็ต สัญลักษณ์ และภาพถ่าย สามารถใช้เป็นวัสดุกราฟิกเพื่อสื่อความหมายในเรื่องราวที่แสดงข้อเท็จจริงต่าง ๆได้
สีและการใช้สี ความเข้าใจในเรื่องของสีเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้งานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์มีความสดใสสวยงาม น่าสนใจ และมีบทบาทในการสื่อความหมายได้อย่างถูกต้อง เหมาะและมีคูณภาพอีกด้วย ดั้งนั้น การเลือกใช้สีควรจะได้ศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจเพื่อที่จะได้นำสีไปใช้ประกอบในงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อให้งานนั้นสามารรถตอบสนองได้ตรงตามจุดประสงค์มากที่สุดซึ่งแต่ละสีให้ความรู้สึกอารมณ์แกjผู้ดูต่างๆ กันออก ไป เช่น
สีขาว ทำให้เกิดความรู้สึกบริสุทธิ์ สะอาด ใหม่ สดใส
สีแดง ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ
สีม่วง ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้า ลึกลับ
สีนำเงิน ทำให้เกิดความรู้สึกสงบ เงียบขรึม
สีเหลือง ทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นรื่นเริง
สีชมพู ทำให้เกิดความรู้สึกนุ่มนวล อ่อนโยน
........5.3
การเขียนภาพการ์ตูน
........5.4
การออกแบบตัวอักษรหัวเรื่อง
ลักษณะของตัวอักษรไทย นักเรียนควรจะศึกษารูปแบบลักษณะของตัวอักษรภาษาไทย ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบ คือ

1. รูปแบบทางราชการ ได้แก่ ตัวอักษรที่มีลักษณะแบบเรียบ ๆ อ่านง่าย นิยมใช้กันมากโดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับทางราชการ องค์การต่าง ๆ ใช้ในการพิมพ์หนังสือเรียน เป็นแบบที่เรียบร้อยแสดงถึงความเป็นระเบียบแบบแผนของความเป็นไทย ลักษณะของตัวอักษรจะเป็นหัวกลม

2. รูปแบบอาลักษณ์ หมายถึง แบบตัวอักษรที่ใช้ในราชสำนักมาแต่โบราณ นับแต่พระบรมราชโองการ เอกสารทางราชการ หรือการจารึกเอกสารสำคัญ เช่นรัฐธรรมนูญ งานเกียรติยศต่าง ๆ

3. รูปแบบสมเด็จกรมพระนริศฯ หมายถึง ลักษณะตัวอักษรที่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้คิดรูปแบบขึ้น ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมาก เพราะเป็นแบบที่ใช้เขียนได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และเหมาะสมกับการเขียนด้วยปากกา สปีดบอลล์ พู่กันแบน และสีเมจิกชนิดปลายตัด หรือที่เรียกว่า อักษรหัวตัด

4. รูปแบบประดิษฐ์ หมายถึง รูปแบบตัวอักษรที่เกิดจากการออกแบบสร้างสรรค์เพื่อนำไปใช้ให้เหมาะสมกับงานประเภทต่าง ๆ เช่น งานออกแบบโฆษณา หัวเรื่องหนังสือ ฯลฯ ซึ่งออกแบบให้เป็นแบบเหลี่ยม แบบวงกลม แบบโค้ง และแบบอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
ความหมายและคุณค่าและประโยชน์ของสื่อราคาเยาสื่อราคาเยานอกจากจะหมายถึง สื่อที่มีราคาถูกแล้วยังหมายถึงสื่อต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติไม่ต้องซื้อหาด้วยราคาแพง สิ่งที่ครูคิดประดิษฐ์ขึ้นด้วยวัสดุราคาถูก หรือหาได้ง่าย รวมถึงสื่อสิ่งของได้เปล่าจากการแจกจ่ายเผยแพร่ของหน่วยงาน
1. สิ่งที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่น
2. สื่อราคาเยาที่ครูคิดประดิษฐ์ขึ้น
หลักการออกแบบและการสร้างสื่อราคาเยา
ตัวอย่างการเลือกสื่อการสอนที่พบเห็นได้เสมอ เช่นครูสอนคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการนับจำนวน การบวก การลบ และต้องการวัสดุเป็นชิ้น ๆ ก้อน ๆ จำนวนหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนได้ลงมือนับจำนวน แทนที่ครูจะนึกถึงก้อนดิน หิน หรือวัสดุอื่นอีกมาก ที่หาได้ไม่ยากในท้องถิ่น มาให้นักเรียนนับ แต่ครูกลับนึกถึงก้อนแม่เหล็กเป็นอันดับแรก และพยายามเรียกร้องให้มีการจัดซื้อกระดานแม่เหล็กมาใช้สอนนับจำนวน กรณีเช่นนี้เราได้นับจำนวนก้อนหินดูจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้มากกว่าการนับชิ้นส่วนบนกระดานแม่เหล็กเสียอีก ถ้าก้อนหินหาได้ง่ายนักเรียนทุกคนสามารถหามาได้ง่าย เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
วัสดุกับเทคนิคการออกแบบ
วัสดุการสอน หมายถึงวัสดุทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ครูพึงหามาใช้ประกอบการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น ซึ่งครูผู้สอนส่วนหนึ่งมักจะมองข้ามไป เมื่อนึกถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนสักเรื่องหนึ่ง ก็มักจะนึกถึงเฉพาะสื่อสำเร็จรูป จำพวกรูปภาพ แผนภูมิสไลด์ ที่มีผลิตขายเป็นธุรกิจการค้า ราคาค่อนข้างสูง สิ่งของที่หาได้ง่ายสำหรับการสอนบางเนื้อหา เช่น ใบไม้ ก้อนหิน ดิน ทราย บางครั้งมีคุณค่ายิ่งกว่าสื่อข้างต้นเสียอีก ถ้ารู้จักนำมาใช้อย่างเหมาะสมเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของจริง ซึ่งเรายอมรับกันว่ามีคุณค่าสูงสุด สำหรับการเรียนการสอน
การประเมินสื่อการเรียนการสอนราคาเยา
1. ความจำเป็นด้านเศรษฐกิจของชาติ
2. ฐานะการเงินของโรงเรียน
3. วัสดุอุปกรณ์สำเร็จรูปมีราคาสูง
4. สื่อสำเร็จรูปไม่สอดคล้องกับสภาพชีวิตและสังคม
5 คุณสมบัติของสื่อที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้


หน่วยที่ 7 การผลิตสื่อการเรียนการสอนด้วยคอมพิวเตอร์
........7.1 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลักษณะที่ ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุด
........
7.2 การใช้เครือข่ายเพื่อการเรียนการสอน
ดังนั้น “สื่อสิ่งพิมพ์” จึงมีความหมายว่า “สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือน ต้นฉบับขึ้นหลายสำเนาในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทำการติดต่อ หรือชักนำให้บุคคลอื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่าง ๆ”
........8.2
ประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์
........8.3
ระบบการพิมพ์
ระบบการพิมพ์
ในโลกนี้มีอยู่หลายอย่างค่ะ แต่ที่จะแนะนำนี่เป็นระบบที่นิยมใช้ในบ้านเรา
1. ระบบออฟเซ็ต
2. ระบบซิลค์สกรีน
...............................................................................................................................

การทำ Burnt Picture ใน Photoshop


เรากำลังจะเผารูปนี้เล่นกัน รูปที่เหมาะสมจะเอามาทำในหัวข้อนี้นั้น ควรจะเป็นรูปที่มีสีขาวๆ หรือไม่ก็สีสดๆ จากที่ดิฉันทดลองทำปรากฏว่า รูปที่มีสีทึมๆจะไม่สวยเท่าที่ควร


เริ่มลงมือทำโดยการใช้เครื่องมือ Lasso ลากไปรอบๆรูป การเลือกนั้นพยายามเลือกให้เส้นคดไปคดมาเหมือนกับโดนไฟลามจริงๆที่สุด ส่วนที่เราเลือกก็คือส่วนที่ไม่ต้องการให้ไหม้ไฟนั่นเอง


เมื่อเลือกส่วนที่ต้องการให้ถูกไหม้เสร็จแล้ว ต่อไปจะทำให้ขอบของรูปคดไปคดมามากขึ้น ทำโดยกดปุ่ม ที่อยู่แถวๆด้านล่างของ Tools bar เพื่อเปลี่ยนไปใช้ Quickmask Mode และใช้คำสั่ง Menu > Filter > Pixellate > Crystallize... ปรับค่าต่างๆดังรูป


เมื่อทำเสร็จจะได้รูปลักษณะอย่างนี้

ต่อจากนั้นเราจะลบส่วนที่ไม่ต้องการออก ก่อนอื่นให้กดปุ่ม เพื่อกลับมาที่ Standard Mode อีกครั้ง แล้ว Double Click ที่ Layer Background แล้วเปลี่ยนชื่อให้เป็น Layer 0 เพื่อที่สามารถลบส่วนที่ไม่ต้องการออกไปได้


ถึงขั้นตอนนี้อย่าเพิ่งทำ Selection หายไปซะก่อน ให้กด Shift+Ctrl+I เพื่อสลับ Selection ไปเลือกส่วนที่เราไม่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Delete เพื่อลบมันออกไป


ถึงตอนนี้เรากำลังจะทำขอบของรูปให้เป็นสีดำๆเหมือนรอยไหม้ เริ่มที่กด เพื่อกลับไปที่ Quickmask Mode อีกครั้งนึง ใช้คำสั่ง Menu > Filter > Others > Minimum... เพื่อขยายขอบของ Selection ให้ลึกเข้ามาในรูป แล้วตามด้วยคำสั่ง Menu > Filter > Blur > Guassian Blur... ปรับค่าต่างๆดังแสดง

ถ้าทำขั้นตอนต่างๆถูกต้อง ผลลัพธ์จะเหมือนในรูปนี้


กลับมาใน Standard Mode อีกครั้ง


ใช้คำสั่ง Menu > Image > Adjust > Hue/Saturation... ปรับค่าต่างๆดังรูป แต่ค่าเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความพอใจ


และเมื่อทำเสร็จ ก็สามารถ Export ไปเป็น Transparent GIF หรือจะนำ Background อื่นๆมาวางด้านหลังก็ได้เช่นเดียวกัน
.......................................................................................................

Tool เครื่องมือต่างๆ ใน Photoshop

.....Tools เป็นเครื่องมือที่ใช้ใน photoshop สามารถกำหนด ป้อนและแสดงด้วยคำสั่ง windows > show/hide Tools ปุ่มบน Tools บางอัน มีรูปภาพสามเหลี่ยมอันเล็กๆอยู่ด้านล่างขวา เมื่อเรากดเม้าส์ค้างบนปุ้มนั้นจะมีเครื่องมือที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันออกมา สำหรับเครื่องมือต่างๆ มีการใช้ดังนี้

สร้างเส้น selection เป็นรูปสี่เหลี่ยม (ถ้ากดคีย์ shift ค้างไว้ จะได้ selection เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส

สร้างเส้น selection เป็นรูปวงรี (ถ้ากดคีย์ shift ค้างไว้ จะได้ selection เป็นรูปวงกลม)

สร้างเส้น selection เป็นเส้นตรงในแนวนอน มีความกว้าง 0.5-1 pixel มักใช้ในการจัดตำแหน่งรูป (Align)

สร้างเส้น selection เป็นเส้นตรงในแนวตั้ง มีความกว้าง 0.5-1 pixel มักใช้ในการจัดตำแหน่งรูป (Align)

ตัดเอาเฉพาะส่วนที่อยู่ในเส้น Crop เท่านั้น
เลื่อน Layer หรือส่วนที่ select ไว้



นิทานเรื่อง ราชสีห์กับหนู (THE LION AND THE MOUSE)


Once upon a time there was a lion
who was hunting for food in the forest

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยั้งมีสิงโคตัวหนึ่งเดินออกหาอาหารอยู่ในป่า

Until afternoon he was tired and sleepy

จนเวลาบ่าย มันรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอน




So he slept under a tree

สิงโตจึงหลบไปนอนใต้ต้นไม้

A little mouse came and ran on the lion is back not knowing that it disturbed the lion

ในขณะนั้นมีหนูตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งวิ่งผ่านมาบนหลังของสิงโต โดยที่มันไม่รู้





The lion woke up and was angry

สิงโตพลันรู้สึกตัวตื่นขึ้นด้วยความโกรธ

ส่วนเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไรติดตามอ่านได้ที่ web ของ อัญชลี และนิภาพร จ้า

................................................................................

นิทานอีสป หมาป่าเป่าปี่


.....ขณะที่ฝูงแกะกำลังหากินกันอยู่ที่ในกลางท้องทุ่งใกล้ป่าใหญ่นั้น ก็ได้มีลูกแกะตัวหนึ่งเดินพลัดหลงและแตกฝูงออกมา ตัวหนึ่ง ลูกแกะตัวนั้นเดินเล่นไปอย่างเพลิดเพลินจนหลงเดินถลำเข้าไปในชายป่าลึกไม่มากนัก พอดีตอนนั้นก็ได้มีหมาป่าตัว หนึ่งได้เดินออกมาจากในป่าลึก มันหมายมุ่งหน้าไปยังท้องทุ่ง เแล้วเมื่อมันได้มองไปและได้เห็นลูกแกะที่เดินหลงจากฝูง ออกมาตัวเดียวอย่างนั้นเข้า


มันให้เป็นดีใจยิ่งนักที่อยู่ ๆ ก็ได้มีลาภปากอันโอชะเดินมาให้มันกินอย่างง่าย ๆ อย่างนั้น " เหอ ๆๆ นั่นมันลูกแกะหลงแตกออกมาจากฝูงนี่ แหม..ช่างน่ากินจังแฮะ เหอ ๆๆ อย่างนี้ก็หวานคอแร้งน่ะสิ " มันว่าแล้วก็ย่างสามขุม ตรงเข้าไปหมายจะขย้ำจับกินให้หายหิวซะหน่อย ลูกแกะเมื่อเห็นเช่นนั้น มันให้เป็นตกใจเป็นอย่างมาก และด้วยต้องจนมุมและจนหนทาง มันคิดว่าจะวิ่งหนีหรือ ย่อมไม่ทันอย่างแน่นอน มันนั่งตัวสั่นและพยายามหันมาใช้ความคิด


มันได้ร้อง ตะโกนบอกกับหมาป่าว่า " อย่าเพิ่งจับข้ากินตอนนี้เลยนะท่าน เพราะเราเพิ่งกินหญ้าเข้าไปหยก ๆ เมื่อสักครู่นี้เอง ยังไม่ย่อย และกลายเป็นเนื้ออร่อย ๆ อย่างที่ท่านชอบกินหรอก เอาอย่างนี้ไหม จริงหรือไม่ ? ข่าวเล่าลือแพร่ สะพัดไปทั่วท้องทุ่งกว้างว่า ท่านนั้นเป่าปี่ได้ไพเพราะจับใจเสียเหลือเกิน เราอยากขอความกรุณาจากท่าน ให้ท่านช่วยเป่าปี่ให้ เราฟังด้วยเถิด เราจะได้เต้นรำเพื่อออกกำลังกายสักนิดให้หญ้าที่อยู่ในท้องของเราเมื่อสักครู่นี้ มันจะได้ย่อยเร็ว ๆ และกลายเป็น เนื้ออร่อย ๆ ให้ท่านกินสมใจไง เพราะไหน ๆ เราก็จะต้องโดนท่านกินอยู่แล้ว เราไม่อยากให้ท่านผิดหวังนะเนี่ย ” เจ้าหมาป่า หยุดใช้ความคิด ก่อนที่มันจะตอบออกมาว่า“ อ๋อ..ได้ซิ เจ้าแกะน้อยก่อนจะตายเจ้าจะได้ฟัง เพลงปี่อันไพเราะจับใจของข้า”

แล้วมันก็หยิบปี่คู่ชีพของมันออกมา แล้วลงนั่งสองขา เอาหลังพิงขอนไม้ใหญ่ นั่งยองๆ เป่าปี่ให้ลูกแกะตัวนั้น เต้นรำ " ปี้ จา ระ...ปี้ จา ระ..." มันพยายามเป่าปี่ให้เข้าทำนองและเสียงดังที่สุดเท่าที่มันจะทำได้เพื่อให้ลูกแกะเต้น เนื้อจะได้อร่อย ๆ อย่างลูกแกะมันว่านั่นแหละ ดูสิมันเชื่อจริง ๆ ด้วยสิ... ส่วนลูกแพะนั้นก็พยายามเต้นรำให้เข้ากับจังหวะ เสียงปี่ " โอ้ ๆๆ เก่งมากท่านหมาป่า เก่งจริง ๆ เป่าอีก เป่าดัง ๆ ให้ดังขึ้นไปอีกสิท่าน นี่เนื้อของเรากำลังเริ่มจะอร่อยขึ้นมา เรื่อย ๆ แล้วนะ ดังอีกดังขี้นไปอีกสิท่าน " เจ้าหมาป่าเริ่มเมามันกับการเป่าปี่เสียแล้ว มันรวบรวมพลัง อย่างเต็มที่แล้วตั้งหน้าตั้งตาเป่าปี่จนสุดเสียงเลยทีเดียวเชียว " ปี้ จา ระ...ปี้ จา ระ...ปี้ จา ระ...ปี้ จา ระ...ปู้ ๆๆๆ"


เสียงปี่ดังระงมเสียงสนั่นลั่นออกไปจนทั่วทั้งทุ่งกว้าง ครั้นคนเลี้ยงแกะและสุนัขล่าเนื้อที่กำลังเดินตามหาลูกแกะ ตัวที่พลัดหลงออกมาจากฝูงอยู่นั้น เมื่อได้ยินเสียงปี่" เอ๊ะ นั่นมันเสียงปี่นี่ ! ใครมาเป่าปี่แถว ๆ นี้นะ" ครั้นเมื่อเขากับสุนัขล่าเนื้อวิ่งตามเสียงปี่มาอย่างเร็วรี่ ก็ได้เห็นว่าหมาป่ากำลังยืนเป่าปี่อยู่ โดยมีลูกแกะที่แตกฝูงออก มา ตัวที่เขากำลังตามหาอยู่กำลังเต้นรำอยู่ตรงหน้าหมาป่าเข้าอย่างนั้น เขาตกใจจึงรีบตะโกนออกไปด้วยเสียงอันดังว่า " โอ๊ะ.. อ้ายหมาป่า หยุดนะ! ..นั่นมันลูกแกะของข้าว๋อย เร็วพวกเอ็งไล่ตามกัดมันเลย เร็ว!" ว่าแล้วเขาก็หันมาออกคำสั่งให้สุนัขล่าเนื้อ ของเขาให้รีบไปกัดเจ้าหมาป่าทันที


สุนัขล่าเนื้อเมื่อได้รับคำสั่งก็เห่าเสียงดังและออกวิ่งเพื่อไล่กวดทันที แต่ก่อนที่เจ้าหมาป่าจะจำเป็นที่จะต้องสวมวิญญานนักวิ่ง เหลียญทองด้วยความจำเป็นไปเสียแล้วนั้น มันก็ได้พูดกับลูกแกะหัวดีตัวนั้นว่า “เจ้าแกะน้อย..ข้าโดนเจ้าหลอกเข้าให้เต็มเปา เสียแล้ว..เวรเอ้ย” หมาป่าร้องตะโกนก้อง พร้อมกับออกวิ่งเพื่อหนีสุนัขล่าเนื้อจนสุดฝีเท้า “สมน้ำหน้าตัวข้าเอง ก็ข้าเป็นเพียง หมาป่า มีหน้าที่เพียงเห่าหอน และจับสัตว์กินเป็นอาหารเท่านั้น แต่นี่กลับเผยอหน้ามานั่งเป่าปี่ให้เจ้าฟังเสียอีก สมควรอย่าง ยิ่งแล้วที่ข้าจะต้องวิ่งหนีเขา....โฮ โฮ ๆๆๆๆ”